Fuji Fujisaki
จริงๆ แล้วสมองทั้งสองซีกของคนเรานั้นจะทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป โดยสมองซีกซ้ายนั้นจะทำหน้าที่คิดวิเคราะห์เรื่องราวต่างๆ เช่น การคิดที่เป็นเหตุเป็นผลหรือการคิดเลข ส่วนสมองซีกขวานั้นจะทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์ ด้านจินตนาการ หรือด้านดนตรี ซึ่งถึงแม้ว่าสมองทั้งสองซีกของเรานั้นจะมีการทำงานที่แตกต่างกัน แต่ถ้าหากเราสามารถใช้สมองทั้งสองซีกในเวลาเดียวกันได้ล่ะก็ จะทำให้เราเพิ่มศักยภาพในการเรียนและการทำงานได้เป็นอย่างดีทีเดียวเลยล่ะครับ โดยปกติแล้วพบว่าคนส่วนใหญ่มักจะใช้สมองซีกซ้ายมากกว่า แต่ได้มีการค้นพบว่าพวกอัจฉริยะนั้นจะใช้สมองซีกขวาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นด้านจินตนาการหรือการคิดริเริ่มต่างๆ ซึ่งทำให้ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นได้มีโรงเรียนสอนการฝึกพัฒนาสมองเพื่อจะฝึกสมองด้านขวาให้เก่ง ซึ่งจะทำให้ทั้งสมองซีกซ้ายและซีกขวานั้นพัฒนาไปด้วยกันได้อย่างเหมาะสม แถมยังส่งผลดีในระยะยาวอย่างที่คุณคาดไม่ถึงอีกด้วยครับ
โดยปกติแล้วพบว่าคนส่วนใหญ่มักจะใช้สมองซีกซ้ายมากกว่า แต่ได้มีการค้นพบว่าพวกอัจฉริยะนั้นจะใช้สมองซีกขวาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นด้านจินตนาการหรือการคิดริเริ่มต่างๆ ซึ่งทำให้ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นได้มีโรงเรียนสอนการฝึกพัฒนาสมองเพื่อจะฝึกสมองด้านขวาให้เก่ง ซึ่งจะทำให้ทั้งสมองซีกซ้ายและซีกขวานั้นพัฒนาไปด้วยกันได้อย่างเหมาะสม แถมยังส่งผลดีในระยะยาวอย่างที่คุณคาดไม่ถึงอีกด้วยครับ
การจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน
วิธีการเลี้ยงดูและการให้ความรู้นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาสมองของเด็ก ดังนั้นการฝึกใช้สมองทั้งสองด้านจึงควรจะเริ่มตั้งแต่แรกเกิดถึง 12 ขวบครับ เพราะจะทำให้สมองของเด็กนั้นสามารถพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ ตามปกติแล้วเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบจะใช้สมองซีกขวามากกว่าซีกซ้ายครับ เพราะเค้าจะแสดงความรู้สึกออกมาตามธรรมชาติโดยไม่ได้คิด แต่เมื่อเด็กโตขึ้นกว่านี้ก็จะเริ่มคิดและใช้สมองซีกซ้ายมากกว่า ดังนั้นจึงควรฝึกให้เด็กได้ใช้สมองซีกขวาให้มากขึ้น และเมื่อเด็กอายุ 6 ขวบเค้าก็จะสามารถใช้สมองทั้งสองด้านผสมผสานกันไปได้ครับ ซึ่งการเรียนการสอนของที่นี่นั้นก็จะแบ่งตามอายุของเด็กครับ ก็จะมีตั้งแต่ห้องเด็กเล็กที่ผู้ปกครองก็สามารถเข้าไปนั่งเรียนด้วยได้ เนื่องจากเด็กยังเล็กมาก ส่วนเด็กที่โตกว่านี้เค้าก็จะคิดเองได้แล้วสามารถเข้าไปเรียนด้วยตัวเองได้เพราะทางโรงเรียนเองก็มุ่งหวังอยู่แล้วครับว่าอยากให้เค้าช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก และนอกจากนี้ก็ยังมีห้องเด็ก 5 ขวบและห้องเด็กประถมอีกด้วยนะครับ
วิธีการสอนของที่นี่
การสอนของที่นี่ก็จะให้อาจารย์เข้าไปสอนทีละ 2 คนครับ และจะต้องสอนอย่างเร็ว เสียงดังและจะต้องมีเนื้อหามากๆ เพราะจะทำให้สมองซีกขวาทำงานได้ดีครับ นอกจากนี้ในเด็กที่อายุ 2 ขวบขึ้นไปก็จะสอนในเรื่องของศีลธรรม เช่น การแกล้ง การโลภ การโกหก หรือการเอาแต่ใจตัวเองให้อีกด้วยครับ
การฝึกจำ
ที่โรงเรียนนี้มีการฝึกจำในรูปแบบต่างๆ มากมาย เช่น การให้เด็กดูตัวเลขหลายตัวอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วินาที จากนั้นก็ปิดตัวเลขไว้ แล้วให้เด็กเขียนตัวเลขที่เห็นลงในกระดาษ หรือการฝึกให้เด็กจำสีเพื่อฝึกการจินตนาการโดยใช้สมองซีกขวา ซึ่งเด็กก็สามารถจดจำได้อย่างถูกต้องแม่นยำนะครับ และก็ยังมีการฝึกวาดเส้นเรขาคณิต หรือฝึกให้เด็กดูแผ่นภาพรูปสัตว์หลายชนิดอย่างรวดเร็วแล้วแยกประเภทสัตว์ให้ถูกต้อง นอกจากนี้เด็ก 3 ขวบของที่นี่ก็ยังสามารถจำธงชาติต่างๆ จำสัญลักษณ์มากมายที่ใช้ในการพยากรณ์อากาศและจำชื่อภูเขาที่สำคัญของญี่ปุ่นทั้ง 26 ลูกได้ แล้วยังคิดเลขเร็วได้อีกด้วยนะครับ
กิจกรรมอื่นๆ
ที่โรงเรียนนี้นอกจากเรื่องเรียนแล้วก็จะให้เด็กได้ออกกำลังกาย เพื่อที่จะให้เค้าได้พัฒนาไปทั้งสมองและร่างกายครับ และที่น่าสนใจก็คือ ก่อนเลิกเรียนที่นี่ก็จะมีการอบรมให้กับผู้ปกครองเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกให้ถูกวิธีอีกด้วย อย่างเช่น ไม่ควรเปรียบเทียบลูกกับเด็กคนอื่น และควรหาข้อดีมาชมลูกบ่อยๆ หรือถ้ามีเรื่องอะไรที่ลูกทำไม่ได้ก็ต้องให้กำลังใจเค้าว่าในไม่ช้าเค้าต้องทำได้แน่ๆ เราควรพูดแต่สิ่งดีๆ กับเด็กครับ
ความสำเร็จจากการศึกษา
คนที่ใช้สมองซีกซ้ายมากแม้จะเรียนเก่งแต่ก็อาจจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เท่ากับคนที่ใช้สมองซีกขวา เพราะคนที่ใช้สมองซีกขวาจะรู้จักแก้ปัญหาและสามารถพลิกแพลงได้มากกว่า และผลจากการที่มีการสอนให้ใช้สมองซีกขวาก็จะมีเด็กที่ประสบความสำเร็จมากมายในหลายๆ ด้าน
ถึงแม้ว่าการพัฒนาเด็กให้ใช้สมองซีกขวานั้นจะเป็นการส่งสริมให้เด็กเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตามพื้นฐานครอบครัวที่อบอบอุ่นและเข้าใจกันนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดนะครับ และเมื่อเด็กเก่งแล้วก็ควรจะเป็นคนดีของสังคมด้วยจึงจะเป็นคนที่สมบูรณ์ครับ